مكتبة الشروحات

ก่อนที่จะติดตั้งสิ่งต่างๆ เพื่อให้เราสามารถ run ruby ได้จะต้องมีการกำหนด ตัวแปรต่างๆที่เกี่ยวกับ ruby เพื่อให้ระบบติดตั้ง packages ไปที่ตำแหน่งที่เรากำหนดขึ้นโดย
โดยกำหนดตัวแปรในไฟล์ .bash_profile ดังนี้
===========================================
/home/USERNAME/.bash_profile
===========================================
PATH=$HOME/ruby/gems/bin:$PATH
GEM_HOME=$HOME/ruby
GEM_PATH=/usr/local/rvm/gems/ruby-2.1.2:$HOME/ruby/gems
export PATH GEM_HOME GEM_PATH

* ในส่วนของ ruby-2.1.2 เราสามารถใส่เวอร์ชั่นอื่นได้ โดย PhalconHost รองรับหลายเวอร์ชั่น ดูได้จากการพิมพ์คำสั่ง rvm list

เมื่อกำหนดตัวแปรต่างๆ แล้ว เราต้องทำการโหลดขึ้นมาใช้งาน โดยใช้คำสั่ง
==================
source $HOME/.bash_profile

สร้างโฟลเดอร์ ruby เพื่อเก็บไฟล์ที่เราจะทำการติดตั้ง packages ต่อไป
===============
mkdir -p $HOME/ruby

ก่อนที่เราจะทำการติดตั้ง packages ต่างๆ จะต้องเลือก ruby เวอร์ชั่นก่อน เพื่อให้ระบบติดตั้ง packages ได้ถูกต้องสำหรับ ruby เวอร์ชั่นนั้นๆ
จากตัวอย่าง เราจะได้ ruby เวอร์ชั่น 2.1.2
======================
ruby -v
rvm list
rvm default 2.1.2
ruby -v

ติดตั้ง bundler
==============
gem install bundler

ต่อไป เราจะติดตั้ง rails framework
====================
gem install rails

เมื่อติดตั้งเรียบร้อย เราก็สร้าง rails app ขึ้นมาทดสอบสักหนึ่งตัว
โดยใช้คำสั่งดังนี้
================
rails new $HOME/railsapp

ระบบจะสร้าง railsapp ขึ้นมา ให้เข้าไปที่โฟลเดอร์ railsapp ก่อนจากนั้นติดตั้ง gems ต่างๆ
===============================================
cd $HOME/railsapp
bundle install --path vendor/bundle

มาถึงจุดนี้ ก็เป็นอันเสร็จพิธีการติดตั้ง rails framework ของเรา

ต่อไปเราต้องสร้างไฟล์ .htaccess ภายใต้ subdomain ของเราเพื่อสั่งให้ run rails framework
ที่เราได้ติดตั้งไว้แล้ว
===============================================================
/home/USERNAME/domains/YOUR_DOMAIN/public_html/rails/.htaccess
===============================================================
PassengerEnabled on
SetEnv GEM_HOME /home/USERNAME/ruby/gems
RailsEnv development
PassengerRuby /usr/local/rvm/wrappers/ruby-2.1.2/ruby
PassengerAppRoot /home/USERNAME/railsapp
PassengerUploadBufferDir /home/USERNAME/domains/YOUR_DOMAIN/public_html/rails/tmp/uploads

สุดท้ายสั่ง restart rails framework และดูผลลัพธ์ที่หน้าเว็บไซด์
====================================================
mkdir -p /home/USERNAME/domains/YOUR_DOMAIN/public_html/rails/tmp/uploads
touch $HOME/railsapp/tmp/restart.txt

ถ้ามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโค้ด จะต้องใช้คำสั่ง touch $HOME/railsapp/tmp/restart.txt ทุกครั้ง ไม่เช่นนั้น หน้าเว็บไซด์จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร

หมายเหตุ:
USERNAME คือ username ที่ส่งให้ทางอีเมล์แต่ละคน
YOUR_DOMAIN คือ domain ที่กรอกไว้ตอนสมัครโฮสติ้ง หรือโดเมนที่สร้างไว้ใน directadmin